วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


***ไขข้อข้องใจ กินแคบหมูอย่างไรไม่ให้อ้วน?***

      หลายคนถามเข้ามาว่า แคบหมูไร้มันนั้น กินแล้วไม่อ้วนใช่มั้ย? ไม่จริงเลยครับ มาวิเคราะห์ปริมาณไขมันรวม และโซเดียม พบว่า ปริมาณไขมันรวมใน “แคบหมูติดมัน” มีประมาณ 51.08 กรัมต่อ 1 ขีด ดังนั้นกินแคบหมู
ติดมัน 1 ขีดจะได้ไขมันประมาณครึ่งขีด หรือประมาณ 50% ส่วน “แคบหมูไร้มัน” อ่านตามชื่อไม่น่าจะมีไขมันเลย แต่ความจริงแล้วมีไขมัน 33.78 กรัมต่อ 1 ขีด หรือประมาณ 30% จะเห็นได้ว่าแคบหมูทั้ง 2 ชนิดมีปริมาณไขมันต่างกันแค่ 20% เท่านั้น ดั้งนั้นแคบหมูไร้มันไม่ได้ปลอดไขมันเลยร้อยเปอร์เซนต์ แต่ยังมีไขมันประกอบถึง 30 % สรุปสั้นๆ ควรทานแคบหมูไม่เกิน 1 ขีดต่อวัน จึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพครับ



        ส่วนแคบป๊อปนั้น เราไม่ได้ใช้น้ำมันในการทอด ท่านจึงมั่นใจได้ว่าไขมันจะลดลงมาอีก 20 % ท่านจะได้รับไขมันเพียงแค่ 10 % เท่านั้น!! (ขายของเลยละกัน ฮ่าๆๆๆ)



        ปล.แต่ในความเป็นจริงแล้ว ใครมันจะไปกินได้แค่ 1 ขีด(วะ) เอาเป็นว่า ท่านกินแล้วอร่อย ท่านก็กินไปเถอะครับ แต่ควรออกกำลังกาย หรือทานผักผลไม้เยอะๆครับ คนเรากินของที่อันตรายกว่าแคบหมูตั้งเยอะแยะมากมาย ถ้าจะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องไขมัน คงนอนตายตาไม่หลับ (ฮ่าๆ)


แคบหมู กับกลิ่นหื่น

        เคยมั้ย? เวลาซื้อแคบหมูมาแล้วเก็บได้แค่ อาทิตย์เดียวแล้วเหม็นหืน สาเหตุของการเหม็นหืนนั้นมีด้วยกัน 2 ประเด็นใหญ่ๆครับ ขอสรุปสั้นๆ ให้อ่านง่ายๆกันเลย

        ข้อแรก  เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นนั้นคือการที่อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำมันในแคบหมูจึงทำให้เกิดดลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

        ข้อสอง เกิดไฮโดรลิซิสของลิพิด โดยที่น้ำและเอนไซม์ที่อยู่ในแคบหมูเป้นตัวเร่งปฏิกิริยาสลายโมเลกุลไตรกลีเซอไรด์ อธิบายง่ายๆคือ การที่แคบหมูมีความชื้นนั่นเองครับ

         ถามว่าน้ำมันพืชกับน้ำมันสัตว์ สิ่งไหนอันตรายกว่ากัน ผมตอบได้เลยว่าน้ำมันพืชแน่นอนครับ ท่านอ่านไม่ผิดหรอกครับ โดยความเป็นจริงแล้ว น้ำมันหมูจะเกิดกลิ่นหืนช้ากว่าน้ำมันพืช เพราะในน้ำมันหมูมีสารป้องกันกลิ่นหืนโดยธรรมชาติ นั่นคือวิตามิน อี ส่วนน้ำมันพืชที่ขายอยู่ทั่วไปนั้น ผู้ประกอบการจะเติมสารเคมีบางชนิดลงไปเพื่อให้หืนช้ากว่า ดังนั้น ทานน้ำมันหมูเถอะครับ ดีต่อสุขภาพ (ฮ่าๆ)

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


***ไมโครเวฟ อันตราย!! จริงหรือ??***

        หลายท่านคงเอียนกับข้อมูลขอแคบหมูกันมากแล้ว วันนี้พ่อค้า จะมาอัพเดทความรู้เกี่ยวกับไมโครเวฟ

กัน หลายคนสงสัยว่า ไม่โครเวฟเป็นอันตราย ทำอาหารแล้วมีสารตกค้างหรือไม่ ความจริงแล้วคลื่นไมโครเวฟ

ป็นคลื่นแม่เหล็กจำพวก เรดาร์ คลื่นส่งทางไกลผ่านดาวเทียม มีมีรังสีตกค้างใดๆทั้งสิ้น แต่ชื่อ microwave นั้น 

ฟังดูแล้วน่ากลัว จึงมี forward mail แปลกๆออกมาเพื่อดิสเครดิตผู้จำหน่ายไมโครเวฟ ย้ำอีกครังนะครับ ว่าไม่

โครเวฟปลอดภัยแน่นอน และเอา แคบป๊อป ใส่ไมโครเวฟก็ไม่เป็นอันตรายแน่นอนครับ (หุหุ)

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

น้ำมันเก่า...อันตราย!!

        หลายท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับอันตรายจากน้ำมันเก่ามาบ้างแล้ว และนิยมใช้น้ำมันเก่ามาประกอบอาหาร ซึ่งคิดว่าไม่เป็นไร แค่เล็กน้อย วันนี้ แคบป๊อป จะออกมาเตือนท่านทั้งหลายที่ใช้น้ำมันเก่ากันครับ ว่าอันตรายยังไง

         เมื่อน้ำมันผ่านกระบวนการทอด หรือความร้อนแล้ว สิ่งแรกที่สังเกตุได้ชัดเลยคือ สี และกลิ่นครับ สีจะออกดำคล้ำ ซึ่งดูไม่น่ากินแล้วครับ แถมยังมีความหนืดมากอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญ และเป้นอันตรายมากๆนั่นก็คือ สารประกอบโพลาร์ สารโพลาร์เป้นสารพิษที่เกิดขึ้นในน้ำมันทอดซ้ำที่เสื่อมคุณภาพ ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง และยังมีสาร โพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ที่เป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย 

        ดังนั้น เมื่อทราบถึงอันตรายแล้ว จากคำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรใช้น้ำมันเก่าเกิน 2 ครั้ง (ทางแคบป๊อบ ใช้น้ำมันเก่าแค่ สองครั้งครับ เพราะถ้าใช้บ่อยกว่านั้น แคบหมูจะมีกลิ่นหืนเร็ว และอันตรายมากๆ) ทางที่ดี สั่ง แคบป๊อปไปทาน (เพราะไม่ต้องใช้น้ำมันในการทอด ฮี่ๆ ขายของซะเลย) และเอาน้ำมันเก่าไปทำ ไบโอดีเซลดีกว่าครับ พ่อค้ารับซื้อของเก่า รับซื้อน้ำมันทอดใช้แล้ว ปิ๊บละ 240 บาทครับ (เพราะที่โรงงานขายประจำ ฮ่าๆๆ)

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แคบหมู...กับชาวต่างชาติ [Chicharron]


***ไขข้อข้องใจ...ฝรั่งกินแคบหมูเป็นมั้ย?***

เกริ่นนำก่อนนะครับว่า ประเทศไทยไม่ใช่ชาติเดียวที่นำหนังหมูมาทำแคบหมูทานเท่านั้น ชาวลาตินอเมริกันก็รู้จักทำกินมานานแล้วเพียงแต่กรรมวิธีทำหรือรสชาติจะแตกต่างกันไปของแต่ละท้องถิ่น บ้านเราทานแคบหมูเหมือนกับข้าว ของแกล้ม แต่ชาวต่างชาติจะทานแคบหมูเป็น snack อาจมีน้ำจิ้ม หรือผงโรย ซึ่งเรียกกันว่า "Chicharron" ลงมาดูแคบหมูของชาวต่างชาติกันครับ ว่าจะต่างกับของคนไทยมากแค่ไหน ^^"

แคบหมู...คอลลาเจน?? [Kabmoo or collagen?]


***ใขข้อข้องใจ แคบหมู มี "คอลลาเจน"จริงหรือ?***


        เคยได้ยินมั้ยครับ ว่าแคบหมูมี คอลลาเจน (เหมือนโฆษณาขายเครื่องสำอางค์ ฮ่าๆ) อันที่จริงแล้ว แคบหมูนั้นทำมาจากหนังหมูครับ หนังหมูมีคอลลาเจนจริงๆ แต่ว่ากรรมวิธีการผลิตนั้น จะเปลี่ยนจากคอลลาเจนเป็น
"เจลาติน" ในช่วงของการต้มบริเวณหนังชั้นใน (dermis หรือ corium)ให้สุกนั่นเอง เพราะฉะนั้น เจ้าไหนที่โฆษณาว่าแคบหมู มีคอลาเจน ไม่จริงนะครับ อย่าเข้าใจผิด ^^
ที่มาของภาพ : http://www.prachatalk.com/

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กรรมวิธีการทำแคบหมู [How to Crispy pork rind]


***อัพเดทวิธีการทำแคบหมูครับ***

ขั้นตอนการทำแคบหมูนั้น ค่อนข้างจะหลายขั้นตอนมากๆ วันนี้ทางแคบป๊อป จะมาแฉวิธีการทำแคบหมูแบบสั้นๆง่ายๆให้ชมกันครับ

        1. นำหนังหมูมาล้างให้สะอาดด้วยน้ำส้มสายชู ขูดขนหมู (เจ้าอื่นอาจจะไม่ขูดขน แต่เราทำครับ ฮ่าๆ)ต้มให้สุก โดยไม่ให้สุกเกินไป ถ้าหนังหมูสุกเกินไป แคบหมูจะไม่กรอบครับ จะออกแนวเป็นผงซะมากกว่า

        2. หั่นหนังหมูเป็นเส้น หมักเครื่องปรุง แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง
 (ทางเราให้การอบเพื่อควบคุมระยะเวลาการแห้งของหนังหมูครับ)


        3. นำหนังหมูที่แห้งแล้ว ไปเคี่ยวในนำมันท่วมไฟอ่อนๆ และนำมาพักไว้ให้เย็น
        4. จากนั้น นำแคบหมูที่พักไว้เย็นแล้ว มาทอดในน้ำมันร้อนจัด ท่านก็จะได้กินแคบหมูที่กรอบอร่อย
***ที่กล่าวมานั้น เป็นขั้นตอนการทำแคบหมูทอดนะครับ แต่ถ้่าท่านไม่มีเวลาทำตามข้อ 1-4 แล้ว "แคบป๊อปเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน" (ฮ่าๆๆๆ) ***



วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Kabpop_package!!







ฉลองเปิดบล็อค โปรโมชั่นลดกันแบบขาดทุน!!

แคบป๊อป แคบหมูไมโครเวฟแนวใหม่ ของคนรักสุขภาพ เปิดบล็อคแล้วครับ ฉลองเปิดบล็อคใหม่ด้วยโปรโมชั่น ลดราคากันแบบสุดๆ

ท่านใดสนใจ เชิญได้ที่ https://www.facebook.com/kabpopThai



kabpop ยำแคบหมู [spicy pork rind]


            หลายคนถามว่า แคบหมู กินกับอะไรถึงอร่อย บางคนยังคิดว่าแคบหมูต้องกินกับน้ำพริกหนุ่มเท่านั้น ฮ่าๆ นั่นเป็นความคิดที่ดี แต่ความจริงแล้ว แคบหมู ทำอะไรได้หลายอย่างครับ ยกตัวอย่างเมนูวันนี้   ยำแคบหมู

 - แคบป๊อป 1 ห่อ [แคบหมูไมโครเวฟ]

 - แหนมหมู ขยี้ให้แหลก 1 ถ้วยตวง 
 - หอมหัวใหญ่ ซอยบาง 1/2 หัว 
 - กะหล่ำปลี หั่นฝอย 1 ถ้วย 
 - ผักชี  1 ต้น 
 - พริกขี้หนู ตามชอบ 
 - น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ 
 - น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ 
 - น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 

     วิธีทำ 

     ทำน้ำยำ โดยนำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกลงในชาม ให้น้ำตาลทรายละลาย ใส่ผักและแหนมตามลงไป (กรณีใส่แหนมด้วย ควรอ่อนมะนาวเล็กน้อยนะครับ เพราะแหนมเปรี้ยวอยู่แล้ว) หลังจากนั้น นำแคบป๊อปที่ออกจากไมโครเวฟแล้ว ทิ้งให้เย็น และนำมาคลุกกับน้ำยำเป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้แคบป๊อปกรอบ ไม่ดูดน้ำยำจนเหนียวเกินไป
สำหรับท่านที่สนใจแคบหมูที่ทานง่าย เก็บไว้ได้นาน ไม่เหม็นหืน เชิญรับชมและรับชิมได้ที่ https://www.facebook.com/kabpopThai แคบหมูไมโครเวฟแนวใหม่ แคบป๊อป!!